Customer Reviews

เรื่องนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ผู้รีวิวได้รู้จักกับนักเขียนการ์ตูนนาม มุนินฺ ตอนเห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกนั้น ยอมรับว่าภาพไม่ค่อยแตะตาเท่าไหร่ แต่หยิบขึ้นมาเพราะคำเปรยปกสั้น ๆ ว่า “การ์ตูนเบา ๆ รัก เศร้า เหงา ซึ้ง” ตอนนั้นรู้สึกว่า โหยคำ นิยามมันโดนอะ (ชอบการ์ตูนแนวเศร้า) ก็เลยลองหยิบขึ้นมาอ่านดู ซึ่งก็บอกเธอว่าการ์ตูนเรื่องนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้รีวิวได้ตั้งแต่เรื่องแรกที่อ่าน กับลายเส้น ดินสอ วาดง่าย ๆ น่ารัก ๆ แต่แฝงข้อคิดอันมากมายเอาไว้ ซึ่งเรียกได้ว่ามันน้อยแต่มากจริง ๆ เรื่องที่โดนใจที่สุดคงจะเป็นเรื่องราตรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับทหารหนุ่มที่ไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับเด็กชายชาวมุสลิมในพื้นที่ ทั้งที่ฐานะ อายุ และศาสนาต่างกันแต่ทั้งสองกับเป็นเพื่อนกันได้อย่างหน้าประหลาด แต่เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ทหารคนนั้นก็ต้องมุ่งออกไปทำภารกิจเพื่อปกป้องคนในพื้นที่ของเขา ซึ่งผู้รีวิวอ่านจบแล้วก็แทบน้ำตาร่วงเพราะมันซึ้งสุด ๆ เลยค่ะ

สิ่งที่ผู้รีวิวชอบอีกก็คือการเอาคำนิยามต่าง ๆ เกี่ยวกับความรักมาเล่าเป็นเรื่องราวได้ง่าย ๆ ได้เห็นภาพและคล้อยตามสุด ๆ ไม่ว่านักเขียนจะปล่อยผลงานออกมากี่เล่ม แนวคิดว่า น้อยแต่มากก็ยังไม่หายไป อีกทั้งยังเพิ่มทวีคูณทำให้ผู้รีวิวหลงรักผลงานของเขามากขึ้นทุกวันอีกด้วย ยังไงก็เป็นผลงานที่อยากแนะนำ ไม่สิ ภูมิใจแนะนำให้อ่านจริง ๆ เป็นผลงานของนักเขียนไทยนะคะ แต่ที่มาเชียร์ให้อ่านนี่ไม่ใช่เพราะต้องการบอกว่าเป็นคนไทยก็ควรจะอุดหนุนคนไทย แต่เชียร์เพราะของเขาดีจริง ๆ ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเล่มหนึ่ง หากคุณได้เปิดใจลองอ่านผลงานเล่มนี้ดูสักครั้ง คุณอาจจะติดใจจนกลายเป็นแฟนผลงานของ มุนินฺ ไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ขอให้คะแนน 5 ดาว

เรื่องนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้ผู้รีวิวได้รู้จักกับนักเขียนการ์ตูนนาม มุนินฺ ตอนเห็นหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกนั้น ยอมรับว่าภาพไม่ค่อยแตะตาเท่าไหร่ แต่หยิบขึ้นมาเพราะคำเปรยปกสั้น ๆ ว่า “การ์ตูนเบา ๆ รัก เศร้า เหงา ซึ้ง” ตอนนั้นรู้สึกว่า โหยคำ นิยามมันโดนอะ (ชอบการ์ตูนแนวเศร้า) ก็เลยลองหยิบขึ้นมาอ่านดู ซึ่งก็บอกเธอว่าการ์ตูนเรื่องนี้สร้างความประทับใจให้กับผู้รีวิวได้ตั้งแต่เรื่องแรกที่อ่าน กับลายเส้น ดินสอ วาดง่าย ๆ น่ารัก ๆ แต่แฝงข้อคิดอันมากมายเอาไว้ ซึ่งเรียกได้ว่ามันน้อยแต่มากจริง ๆ เรื่องที่โดนใจที่สุดคงจะเป็นเรื่องราตรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับทหารหนุ่มที่ไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับเด็กชายชาวมุสลิมในพื้นที่ ทั้งที่ฐานะ อายุ และศาสนาต่างกันแต่ทั้งสองกับเป็นเพื่อนกันได้อย่างหน้าประหลาด แต่เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ทหารคนนั้นก็ต้องมุ่งออกไปทำภารกิจเพื่อปกป้องคนในพื้นที่ของเขา ซึ่งผู้รีวิวอ่านจบแล้วก็แทบน้ำตาร่วงเพราะมันซึ้งสุด ๆ เลยค่ะ

สิ่งที่ผู้รีวิวชอบอีกก็คือการเอาคำนิยามต่าง ๆ เกี่ยวกับความรักมาเล่าเป็นเรื่องราวได้ง่าย ๆ ได้เห็นภาพและคล้อยตามสุด ๆ ไม่ว่านักเขียนจะปล่อยผลงานออกมากี่เล่ม แนวคิดว่า น้อยแต่มากก็ยังไม่หายไป อีกทั้งยังเพิ่มทวีคูณทำให้ผู้รีวิวหลงรักผลงานของเขามากขึ้นทุกวันอีกด้วย ยังไงก็เป็นผลงานที่อยากแนะนำ ไม่สิ ภูมิใจแนะนำให้อ่านจริง ๆ เป็นผลงานของนักเขียนไทยนะคะ แต่ที่มาเชียร์ให้อ่านนี่ไม่ใช่เพราะต้องการบอกว่าเป็นคนไทยก็ควรจะอุดหนุนคนไทย แต่เชียร์เพราะของเขาดีจริง ๆ ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเล่มหนึ่ง หากคุณได้เปิดใจลองอ่านผลงานเล่มนี้ดูสักครั้ง คุณอาจจะติดใจจนกลายเป็นแฟนผลงานของ มุนินฺ ไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ขอให้คะแนน 5 ดาว

ทะเล...เมื่อกล่าวถึงทะเลเรานึกถึงอะไร นึกถึงทะเลที่ไหน และนึกถึงใคร ทุกคนล้วนมีเรื่องราวความทรงจำเกี่ยวกับทะเลไม่มากก็น้อยแตกต่างกันไป หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเหล่าตัวละครที่มีความทรงจำหลายรสชาติหลากอารมณ์กับท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ อาธิ เรื่องราวของเด็กน้อยคู่ซี้ ทะเลกับปีเตอร์ ทะเลชอบเล่นน้ำทะเลสมชื่อเพราะอยู่กับทะเลมาตั้งเกิด ผิดกับปีเตอร์ที่ไม่ค่อยชอบเล่นน้ำทะเลเลือกที่จะนั่งก่อปราสาททรายอยู่ใกล้ ๆ มากกว่า แต่วันหนึ่งระยะทางก็ได้พัดพาเพื่อนซี้คู่นี้แยกห่างกันคนละทวีปเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำและคำสัญญาเล็ก ๆ ว่า “ทะเลจะไม่มีวันห่างทราย” สองเรื่องราวของสาวน้อยที่หลบมาพักใจที่ทะเลคนเดียว ท่ามกลางบรรยายเวิ้งว้างเงียบเหงาของทะเลมันทำให้รู้สึกเศร้าแต่กลับเยียวยาเธอได้อย่างน่าประหลาด เรื่องราวความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับทะเลของคู่รักหนุ่มสาว ซึ้งการมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้ทำให้เขาเห็นความสำคัญของกันและกัน และสุดท้ายเรื่องราวของครบครัวแสนสุขที่มีความผูกพันกับทะเลมายาวนาน แม้ว่าทะเลจะไม่ใช่สถานที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา แต่ทะเลก็มอบความทรงจำอันแสนสวยงามใหม่ ๆ ให้พวกเขาได้เสมอ

นี่ผลงานอันแสนน่ารักอบอุ่นจากปลายปากกาของมุนินฺนักเขียนการ์ตูนที่กำลังเป็นที่นิยมในเหล่าเด็กวัยรุ่นในปัจจุบัน รวมถึงตัวผู้รีวิวเองด้วย ด้วยผลงานการเล่าเรื่องด้วยภาพการ์ตูนลายเส้นดินสอกันแสนเรียบง่ายหากแต่อ่อนโยนและแฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ มากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดการ์ตูนจากปลายปากกาของนักเขียนคนนี้จึงโด่งดังเป็นพลุแตกมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีคนเฝ้าติดตามอย่างล้นหลามมากขึ้นทุกวัน

หากใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานของนักเขียนคนนี้ และตัดสินจากน่าปกว่ามันไม่น่าสนใจ เราอยากขอให้คุณลองเปิดใจให้กว้างแล้วหยิบหนังสือนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกสักครั้ง (พูดง่าย ๆ ลองอ่านเถอะค่ะ) แล้วคุณจะหลงรักเรื่องราว สุข เศร้า เหงา ซึ้ง จากปลายดินสอของนักเขียนคนนี้โดยไม่รู้ตัว ขอให้คะแนน 5 ดาว

ทะเล...เมื่อกล่าวถึงทะเลเรานึกถึงอะไร นึกถึงทะเลที่ไหน และนึกถึงใคร ทุกคนล้วนมีเรื่องราวความทรงจำเกี่ยวกับทะเลไม่มากก็น้อยแตกต่างกันไป หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเหล่าตัวละครที่มีความทรงจำหลายรสชาติหลากอารมณ์กับท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ อาธิ เรื่องราวของเด็กน้อยคู่ซี้ ทะเลกับปีเตอร์ ทะเลชอบเล่นน้ำทะเลสมชื่อเพราะอยู่กับทะเลมาตั้งเกิด ผิดกับปีเตอร์ที่ไม่ค่อยชอบเล่นน้ำทะเลเลือกที่จะนั่งก่อปราสาททรายอยู่ใกล้ ๆ มากกว่า แต่วันหนึ่งระยะทางก็ได้พัดพาเพื่อนซี้คู่นี้แยกห่างกันคนละทวีปเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำและคำสัญญาเล็ก ๆ ว่า “ทะเลจะไม่มีวันห่างทราย” สองเรื่องราวของสาวน้อยที่หลบมาพักใจที่ทะเลคนเดียว ท่ามกลางบรรยายเวิ้งว้างเงียบเหงาของทะเลมันทำให้รู้สึกเศร้าแต่กลับเยียวยาเธอได้อย่างน่าประหลาด เรื่องราวความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับทะเลของคู่รักหนุ่มสาว ซึ้งการมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้ทำให้เขาเห็นความสำคัญของกันและกัน และสุดท้ายเรื่องราวของครบครัวแสนสุขที่มีความผูกพันกับทะเลมายาวนาน แม้ว่าทะเลจะไม่ใช่สถานที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา แต่ทะเลก็มอบความทรงจำอันแสนสวยงามใหม่ ๆ ให้พวกเขาได้เสมอ

นี่ผลงานอันแสนน่ารักอบอุ่นจากปลายปากกาของมุนินฺนักเขียนการ์ตูนที่กำลังเป็นที่นิยมในเหล่าเด็กวัยรุ่นในปัจจุบัน รวมถึงตัวผู้รีวิวเองด้วย ด้วยผลงานการเล่าเรื่องด้วยภาพการ์ตูนลายเส้นดินสอกันแสนเรียบง่ายหากแต่อ่อนโยนและแฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ มากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดการ์ตูนจากปลายปากกาของนักเขียนคนนี้จึงโด่งดังเป็นพลุแตกมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีคนเฝ้าติดตามอย่างล้นหลามมากขึ้นทุกวัน

หากใครที่ยังไม่เคยอ่านผลงานของนักเขียนคนนี้ และตัดสินจากน่าปกว่ามันไม่น่าสนใจ เราอยากขอให้คุณลองเปิดใจให้กว้างแล้วหยิบหนังสือนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกสักครั้ง (พูดง่าย ๆ ลองอ่านเถอะค่ะ) แล้วคุณจะหลงรักเรื่องราว สุข เศร้า เหงา ซึ้ง จากปลายดินสอของนักเขียนคนนี้โดยไม่รู้ตัว ขอให้คะแนน 5 ดาว

ท่านประธานของบริษัทเนเว่คอร์ปอเรชั่น มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เขาทำให้เจ็ดผู้มีอธิพลหลักของสี่ทวีปยอมก้มหัวให้ได้อย่างไรและทำไมเขาจึงต้องออกโรงปกป้องเหล่าฮิวแมนนอยด์ที่โดนนโยบายเรียกเก็บและทำลายด้วย และเหล่าผู้มีอธิพลทั้งเจ็ดของสี่ทวีปนั้นก็ท่าทางไม่เหมือนคนธรรมดาสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะท่านประธาน แท้จริงแล้วเขาคือใครกันแน่ หนังสือเรื่องนี้มีคำถาม คำถาม และคำถามเต็มไปหมดตั้งแต่เริ่มเปิดอ่าน จนจบเรื่องคำถามทั้งหมดก็ยังไม่ถูกไขปริศนา แต่นั้นก็ทำให้เรื่องนี้ยอดเยี่ยมและน่าติดตาม กับการวางโครงเรื่องและปมปัญหาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ที่ไม่ว่าคนเขียนจะพาคนอ่านย้อนไปจุดเริ่มต้นของปัญหาสักกี่ครั้ง ปมปัญหาก็ไม่คลี่คลายสักที อีกทั้งยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

จุดชูโรงหลักของเรื่องนี้ก็คือการนำความเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าและเหล่ารับใช้ของศาสนาคริสต์ มาเรียบเรียงตัดเสริมเติมแต่งด้วยจินตนาการสุดบรรเจิดจนออกมาเป็นนิยายเล่มนี้ได้ ภาษาที่ใช้ร้อยเรียงเรื่องราวนั้นก็สวยงาม มีการเลือกใช้คำแปลกใหม่และศัพท์ชั้นสูง ทำให้อ่านได้รื่นไหลและเพลิดเพลินตลอดเรื่องจนจบ เรียกว่าเรียบเรียงออกมาได้ดีจนแทบวางไม่ลงเลยทีเดียว พระเอกของเรื่องนั้นคือร่างอวตารของผู้ที่เคยเป็นใหญ่แห่งโลกเบื้องบน ก่อนลงมาเขาได้ให้สัญญาว่าหากเหล่าผู้รับใช้หาเขาเจอ เขาจะทำให้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริงคนละข้อ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องทำให้เขาในร่างมนุษย์นั้นจำได้ว่าคนเองเคยเป็นใครเสียก่อน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เลยอุดมไปด้วยหนุ่ม ๆ เต็มไปหมดเลยจ้า น่าจะถูกใจสาว ๆ หลายคนที่ชอบนิยายที่มีเหล่าชายรูปงามเยอะ ๆ และรำคาญเหล่าผู้หญิงนะ เป็นอีกเรื่องที่ภูมิใจเสนอจริง ๆ ไม่อ่านแล้วจะเสียใจนะ ขอให้คะแนน 5 ดาว

ท่านประธานของบริษัทเนเว่คอร์ปอเรชั่น มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เขาทำให้เจ็ดผู้มีอธิพลหลักของสี่ทวีปยอมก้มหัวให้ได้อย่างไรและทำไมเขาจึงต้องออกโรงปกป้องเหล่าฮิวแมนนอยด์ที่โดนนโยบายเรียกเก็บและทำลายด้วย และเหล่าผู้มีอธิพลทั้งเจ็ดของสี่ทวีปนั้นก็ท่าทางไม่เหมือนคนธรรมดาสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะท่านประธาน แท้จริงแล้วเขาคือใครกันแน่ หนังสือเรื่องนี้มีคำถาม คำถาม และคำถามเต็มไปหมดตั้งแต่เริ่มเปิดอ่าน จนจบเรื่องคำถามทั้งหมดก็ยังไม่ถูกไขปริศนา แต่นั้นก็ทำให้เรื่องนี้ยอดเยี่ยมและน่าติดตาม กับการวางโครงเรื่องและปมปัญหาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ที่ไม่ว่าคนเขียนจะพาคนอ่านย้อนไปจุดเริ่มต้นของปัญหาสักกี่ครั้ง ปมปัญหาก็ไม่คลี่คลายสักที อีกทั้งยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

จุดชูโรงหลักของเรื่องนี้ก็คือการนำความเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าและเหล่ารับใช้ของศาสนาคริสต์ มาเรียบเรียงตัดเสริมเติมแต่งด้วยจินตนาการสุดบรรเจิดจนออกมาเป็นนิยายเล่มนี้ได้ ภาษาที่ใช้ร้อยเรียงเรื่องราวนั้นก็สวยงาม มีการเลือกใช้คำแปลกใหม่และศัพท์ชั้นสูง ทำให้อ่านได้รื่นไหลและเพลิดเพลินตลอดเรื่องจนจบ เรียกว่าเรียบเรียงออกมาได้ดีจนแทบวางไม่ลงเลยทีเดียว พระเอกของเรื่องนั้นคือร่างอวตารของผู้ที่เคยเป็นใหญ่แห่งโลกเบื้องบน ก่อนลงมาเขาได้ให้สัญญาว่าหากเหล่าผู้รับใช้หาเขาเจอ เขาจะทำให้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริงคนละข้อ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องทำให้เขาในร่างมนุษย์นั้นจำได้ว่าคนเองเคยเป็นใครเสียก่อน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เลยอุดมไปด้วยหนุ่ม ๆ เต็มไปหมดเลยจ้า น่าจะถูกใจสาว ๆ หลายคนที่ชอบนิยายที่มีเหล่าชายรูปงามเยอะ ๆ และรำคาญเหล่าผู้หญิงนะ เป็นอีกเรื่องที่ภูมิใจเสนอจริง ๆ ไม่อ่านแล้วจะเสียใจนะ ขอให้คะแนน 5 ดาว

หากกล่าวถึงตำแหน่งราชาปีศาจ คงเป็นอาชีพที่ปีศาจทุกตนใฝ่ฝัน แต่ไม่ใช่สำหรับปีศาจในเรื่องนี้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ อาเชอร์ ได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งราชาปีศาจรุ่น 12 แห่งแดนปีศาจ ตำแหน่งสุดสะพรึงที่ปีศาจทุกตนพร้อมใจกันส่ายหน้าปฏิเสธ ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะตำแหน่งราชาปีศาจอันทรงเกียรตินี้ไม่ต่างอะไรกันการแสดงปาหี่ให้มนุษย์ทั่วทั้งโลกคอยด่าสาปแช่งไม่เว้นแต่ละวันน่ะสิ อีกทั้งยังต้องคอยเลี้ยงดูปูสื่อผู้กล้าให้มากำจัดตนเองเพื่อรักษาความสงบสุขระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจตามพัญธะสัญญาในอดีตอีกด้วย ช่างเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่(รึเปล่า) แต่ไร้อิสระ แถมยังไม่คุ้มค่าเหนื่อย แล้วแบบนี้ปีศาจหนุ่มชาวไร่ธรรมดาอย่าง อาเชอร์ จะปกครองแดนปีศาจรอดไหมเนี่ย

นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งจากโครงการประกวดนักเขียนหน้าใสจากสำนักพิมพ์แจ่มใส ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นมีความโด่ดเด่น สะดุดตา สมกับที่ได้รางวัลจริง ๆ นิยายแฟนตาซีเรื่องนี้มีจุดโฟกัสค่อนข้างแปลกใหม่โดยการใช้กลุ่มราชาปีศาจเป็นตัวชูโรง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มตัวละครด้านคุณธรรมอีกด้วยสิ ทำเอาภาพลักษณ์ของราชาปีศาจที่เราเคยรู้จักในอดีตถูกกลบไปเลย ส่วนมนุษย์นั้นถูกพลิกบทบาทให้กลายเป็นกลุ่มตัวละครด้านอธรรมไปซะงั้น ซึ่งนับว่านักเขียนปูเนื้อเรื่อง ปมปัญหา แล้ววางแผนตัวละครไว้ได้ค่อยข้างลงตัวและน่าสนใจทีเดียว

วิธีเล่าเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นเหมือนการอ่านบันทึกของตัวเด่นผู้เป็นราชาปีศาจที่คอยจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ประสบระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องนั้นแสดงลักษณะนิสัยของตัวเอกได้ดีว่าเป็นคนขี้บ่นเอามาก ๆ แต่ความขี้บ่น ขี้ประชด และชอบเปรียบเทียบเรื่องโน้นเรื่องนี้ นั่นแหละ คือจุดที่ทำให้เรื่องราวสนุก นอกจากนี้ยังมีตัวละครน่าสนใจอีกมากมายที่ขนออกมาเรียกความสนุกตื่นเต้นได้ตลอดทั้งเรื่อง

เขียนมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายแฟนตาซีตลก เฮฮา และไม่ค่อยมีสาระ ก็จริง แต่ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว พราะเรื่องนี้ค่อนข้างให้ข้อคิดที่มากเลยทีเดียว ระหว่างตัวตนของปีศาจผู้แสนโหดร้ายในสายตามนุษย์ แต่ความจริงกลับไม่บริโภคเนื้อสัตว์กินมังสวิรัติและคอยรักษากฎเพื่อคอยกอบกู้โลก ในขณะทีมนุษย์เรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรม กลับจ้องแต่จะทำลายกฎเพื่อก่อสงครามเพื่อสนองกิเลสของตน ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านสนุก ภาษาสวยงาม บรรยายได้ลื่นไหลจนผู้อ่านเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคือเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีจริง ๆ ขอให้คะแนน 5 ดาว

หากกล่าวถึงตำแหน่งราชาปีศาจ คงเป็นอาชีพที่ปีศาจทุกตนใฝ่ฝัน แต่ไม่ใช่สำหรับปีศาจในเรื่องนี้ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ อาเชอร์ ได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งราชาปีศาจรุ่น 12 แห่งแดนปีศาจ ตำแหน่งสุดสะพรึงที่ปีศาจทุกตนพร้อมใจกันส่ายหน้าปฏิเสธ ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะตำแหน่งราชาปีศาจอันทรงเกียรตินี้ไม่ต่างอะไรกันการแสดงปาหี่ให้มนุษย์ทั่วทั้งโลกคอยด่าสาปแช่งไม่เว้นแต่ละวันน่ะสิ อีกทั้งยังต้องคอยเลี้ยงดูปูสื่อผู้กล้าให้มากำจัดตนเองเพื่อรักษาความสงบสุขระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจตามพัญธะสัญญาในอดีตอีกด้วย ช่างเป็นอาชีพที่ยิ่งใหญ่(รึเปล่า) แต่ไร้อิสระ แถมยังไม่คุ้มค่าเหนื่อย แล้วแบบนี้ปีศาจหนุ่มชาวไร่ธรรมดาอย่าง อาเชอร์ จะปกครองแดนปีศาจรอดไหมเนี่ย

นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งจากโครงการประกวดนักเขียนหน้าใสจากสำนักพิมพ์แจ่มใส ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นมีความโด่ดเด่น สะดุดตา สมกับที่ได้รางวัลจริง ๆ นิยายแฟนตาซีเรื่องนี้มีจุดโฟกัสค่อนข้างแปลกใหม่โดยการใช้กลุ่มราชาปีศาจเป็นตัวชูโรง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มตัวละครด้านคุณธรรมอีกด้วยสิ ทำเอาภาพลักษณ์ของราชาปีศาจที่เราเคยรู้จักในอดีตถูกกลบไปเลย ส่วนมนุษย์นั้นถูกพลิกบทบาทให้กลายเป็นกลุ่มตัวละครด้านอธรรมไปซะงั้น ซึ่งนับว่านักเขียนปูเนื้อเรื่อง ปมปัญหา แล้ววางแผนตัวละครไว้ได้ค่อยข้างลงตัวและน่าสนใจทีเดียว

วิธีเล่าเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นเหมือนการอ่านบันทึกของตัวเด่นผู้เป็นราชาปีศาจที่คอยจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ประสบระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องนั้นแสดงลักษณะนิสัยของตัวเอกได้ดีว่าเป็นคนขี้บ่นเอามาก ๆ แต่ความขี้บ่น ขี้ประชด และชอบเปรียบเทียบเรื่องโน้นเรื่องนี้ นั่นแหละ คือจุดที่ทำให้เรื่องราวสนุก นอกจากนี้ยังมีตัวละครน่าสนใจอีกมากมายที่ขนออกมาเรียกความสนุกตื่นเต้นได้ตลอดทั้งเรื่อง

เขียนมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิยายแฟนตาซีตลก เฮฮา และไม่ค่อยมีสาระ ก็จริง แต่ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว พราะเรื่องนี้ค่อนข้างให้ข้อคิดที่มากเลยทีเดียว ระหว่างตัวตนของปีศาจผู้แสนโหดร้ายในสายตามนุษย์ แต่ความจริงกลับไม่บริโภคเนื้อสัตว์กินมังสวิรัติและคอยรักษากฎเพื่อคอยกอบกู้โลก ในขณะทีมนุษย์เรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรม กลับจ้องแต่จะทำลายกฎเพื่อก่อสงครามเพื่อสนองกิเลสของตน ถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านสนุก ภาษาสวยงาม บรรยายได้ลื่นไหลจนผู้อ่านเห็นภาพตามได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคือเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีจริง ๆ ขอให้คะแนน 5 ดาว